หมู่บ้านบุกชนฮันอก

ไม่กี่สเต็ปจากย่านซัมชองดง ก็สามมรถทะลุเข้าสู่ชุมชนหมู่บ้านวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวาที่สุดในโซล นั่นก็คือ หมู่บ้านบุกชนฮันอก แต่เดิมที่นี่เป็นย่านที่อยู่อาศัยของเหล่าขุนนางที่ทำงานในวัง แต่ปัจจุบันถูกยกให้เป็นมรดกของชาติ ซึ่งยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิมอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไว้อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะโครงไม้และหินสีเทา มุงด้วยหลังคาที่มีเชิงชั้นทำมุมสวยเป๊ะ

ก่อนเดินสำรวจ ควรไปขอแผนที่ท่องเที่ยวทั่วหมู่บ้านที่ศูนย์บริการข้อมูลการท่องเที่ยว ตั้งอยู่ด้านหน้าหมู่บ้าน จากนั้นก็สามารถสำรวจสถานที่สำคัญๆ ทั้ง Bukchon Traditional Culture Center, Seoul Museum of Chicken Art ตลอดจนบ้านบางหลังที่เปิดสอนจัดช่อดอกไม้ สอนภาษา และสอนวิชาชีพช่าง เป็นแหล่งสำหรับเรียนรู้วัฒนธรรมเกาหลีแบบดั้งเดิมชั้นดีเลยทีเดียว และที่น่ารักคือเขาจะทำสัญลักษณ์ไว้ตรงพื้นให้รู้ว่าตรงนี้เป็นจุดถ่ายรูป จะได้ไม่พลาดมีรูปถ่ายสวยๆ ไปอวดกัน แต่ต้องระวังสักนิดว่า อย่าส่งเสียงดัง เพราะบ้านแต่ละหลังยังมีคนอาศัยอยู่

More Info : นั่งรถไฟใต้ดินลง Anguk Station ทางออก 2 เดินต่อประมาณ 300 เมตร

ซัมชองดง

ถ้าพูดถึงถนนสายโรแมนติกในโซล ก็ต้องที่ย่าน ซัมชองดง ที่ประกอบด้วยถนนสายหลักและแตกแขนงเป็นซอยย่อยๆ ร่มรื่นด้วยต้นแปะก๊วยใหญ่ๆ ตลอดเส้นทาง ขนาบด้วยพระราชวังคยองบกกุงทางฝั่งซ้าย และพระราชวังชางด็อกกุงทางฝั่งขวา เชื่อมต่อกับย่านหมู่บ้านบุกชอนฮันอกที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนสไตล์เกาหลีดั้งเดิม ผสมปนเปไปกับร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้าบูติก และแกลเลอรีเก๋ไก๋อย่างลงตัว อีกทั้งบนกำแพงยังระบายไปด้วยภาพศิลปะสวยเตะตา ซัมชองดงจึงถือว่าเป็นย่านที่มีเอกลักษณ์ รื่นรมย์ และติดอยู่ในอันดับถนนที่น่าเดินที่สุดในเกาหลี

More Info : นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Anguk Station ทางออก 1 อาจจะเดินไกลสักหน่อย แต่ระหว่างทางก็จะเจอบ้านสไตล์โบราณและคาเฟ่น่ารักๆ

กวางฮวามุน

ที่นี่โดดเด่นด้วยอนุสรณ์ของสองผู้ยิ่งใหญ่แห่งเกาหลี ได้แก่ อนุสาวรีย์พระเจ้าเซจงมหาราช กษัตริย์นักคิดผู้ประดิษฐ์อักษรเกาหลีฮันกึล และแม่ทัพลี ซุนชิน ขุนศึกผู้นำกองทัพเรือเกาหลีเข้าต่อสู้กับกองทัพเรือญี่ปุ่น ซึ่งท่านแรกนั่งอยู่บนบัลลังก์ ด้านหน้ามีมาตรวัดน้ำฝนและนาฬิกาแดด ซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ชั้นยอดฝีมือนักปราชญ์และทหารองครักษ์ของพระเจ้าเซจงเองวางตั้งอยู่ ส่วนท่านที่สองนั้นยืนถืออาวุธสุดเท่ โดยมีน้ำพุพวยพุ่งขึ้น คอยสร้างสีสันในการถ่ายรูปให้ยามนักท่องเที่ยวมาเยือน

หากมองลึกเข้าไป ก็จะเห็นฉากอันอลังการของภูเขาพูกักซานและประตูควางฮวามุน ซึ่งเป็นประตูหลักสู่พระราชวังคยองบกกุง พระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดของเกาหลี หากมีเวลาก็สามารถเดินจากจัตุรัสแห่งนี้ไปดูทหารเปลี่ยนเวรยาม แล้วเที่ยวพระราชวังคยองบกกุงต่อได้

ซินซาดง

แต่ถ้าอยากช้อปปิ้งแบรนด์หรู ก็ต้องย่าน ซินซาดง ฝั่งกังนัม ถนนที่มีระยะทางแค่ 670 เมตร แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นถนนเส้นสวยแห่งหนึ่งกลางกรุงโซล ที่นี่จะมีบรรดาร้านค้าที่เรียงตัวแน่น ทั้งแบรนด์ดังๆ และแบรนด์ Local สลับด้วย Pop-up Store ที่เปิดขายสินค้าลิมิเต็ดเอดิชั่นในบางช่วงเวลาเท่านั้น เดินไปเกือบสุดปลายถนน จะสะดุดตาเข้ากับร้านเก๋นามว่า Around the Corner ซึ่งภายในขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับดีไซน์จัดจ้านแต่หรูหรา ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น บนถนนเส้นนี้ยังมีคาเฟ่ชั้นดีแอบซ่อนอยู่หลายร้าน ไม่ว่าจะเป็น Coffee Smith ที่ป๊อปปูลาร์ในหมู่เซเล็บฯ หรือคาเฟ่อารมณ์นุ่มอย่าง A Twosome Place ซึ่งเป็นกาแฟแฟรนไชส์ที่ค่อนข้างฮอตพอตัว

More Info : นั่งรถไฟใต้ไปลง Sinsa Station ทางออก 8 แล้วเดินตรงไป 250 เมตร ถนนจะอยู่ด้านซ้ายมือ

มยองดง

ของเด็ด 7 ประการในมยองดงที่คัดมาให้ไว้เช็กลิสต์ คือ เครื่องสำอางแบรนด์เกาหลี ไม่ว่าจะเป็น Etude – Skinfood – Holika Holika – too cool for school ล้วนแต่มีเครื่องสำอางแพ็กเกจน่ารักที่ช่วยประทินโฉมตั้งแต่หัวจรดเท้า แถมยังราคาถูกเว่อร์ ยิ่งถ้าในสาขาใหญ่ ก็จะได้ของแถมและส่วนลดเยอะกว่าสาขาเล็กด้วย ต่อมาคือ ไอศกรีมโคนยาวเกือบฟุต มีให้เลือกทั้งรสวานิลลา ช็อกโกแลต หรือผสม ไม่ว่าจะมาในฤดูไหนก็ขายตลอด อย่างที่ 3 คือ ขนมมันฝรั่งเกลียว ที่วัยรุ่นนิยมซื้อกันสุดๆ ยิ่งคลุกผงชีสด้วยยิ่งอร่อย อย่างที่ 4 สตรีตโชว์ในวันอาทิตย์ ที่จะมีกลุ่มวัยรุ่นมาแดนซ์เรียกเสียงฮือฮา อย่างที่ 5 เอาใจสาวก K-Pop กับซีดีเพลงของศิลปินเกาหลี ซึ่งแหล่งขายราคาถูกที่สุดอยู่ที่ร้านในสถานีรถไฟใต้ดินมยองดง อย่างที่ 6 ชมคุกกิ้งโชว์ขึ้นชื่อของเกาหลีที่ Myeong-dong NANTA Theatre และสุดท้ายคือ พ่อค้าหล่อแซ่บในช็อปต่างๆ หล่อจริง ล้ำจริง สูงขาวจริง

More Info : นั่งรถไฟใต้ดินมาที่ Myeong-dong Station ทางออก 7-8

ทัคคาลบี้

แค่นึกถึงกับน้ำลายสอกับเมนูซี่โครงย่างแบบต้นตำรับเกาหลี ซึ่งแต่ละร้านจะหมักซี่โครงหมูและไก่ด้วยเครื่องหมักสูตรลับเฉพาะ เมื่อหมักได้ที่แล้วก็เอามาย่างบนเตา ระดับไฟปานกลาง กินกับซัมจัง น้ำจิ้มหมูย่างของเกาหลีที่ทำจากเต้าเจี้ยว ห่อด้วยผักกาดหอม แนบเคียงด้วยกระเทียมสด อยากให้เผ็ดอีกนิดก็เติมพริกสดลงไป ห่อไปพร้อมข้าวสวยและกิมจิ แล้วก็เอาใส่ปากไปเลย ถ้าไปเที่ยวย่านชุนชอน แถวเกาะนามิ ห้ามพลาดร้านคึมมุน ซึ่งจะใช้โครงไก่ชุนชอน (Chuncheon) ที่มีชื่อเสียงมาปรุงเครื่องเทศเป็นเมนูทัคคาลบี้ กินแล้วเพลิน จนหมดกระทะโดยไม่รู้ตัว

More Info: ร้านตั้งอยู่ที่ Gyeonggi-do, Gapyeong-gun, Gapyonup, Kansan-gil 11 (เข้าทางเกาะนามิ) Tel. +82 31 581 9282

บูลโกกิ

ขึ้นชื่อว่า เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย หลายคนมักเกิดอาการอยากอาหารรสจัดจ้านกันบ้าง ต้องเมนูพูลโกกินี้เลย เมนูนี้จะมีทั้งเนื้อหมูและปลาหมึกหมักซอสสมัยใหม่ของเกาหลี แล้วนำไปย่างคล้ายๆ บาร์บีคิว รสชาติออกหวาน เผ็ด เมื่อสุกพร้อมรับประทานก็คีบมาจิ้มน้ำซอส กินคู่กับเครื่องเคียง ทั้งผักสด กิมจิ ซุป และข้าวสวย ถ้าแวะไปแถวซอรัคซาน ไม่ควรพลาดร้านซันมารู (เจ้าแรกต้นตำรับ) ที่นอกจากพูลโกกิของเขาจะรสชาติจัดจ้านเด็ดขาดแล้ว เครื่องเคียงยังไม่เหมือนร้านไหน โดยเฉพาะปลาซาร์ดีนทอด รับประกันความอร่อยแน่นอน

More Info : ร้านตั้งอยู่ที่ Kangwongo, Sokchoshi, Nohakdong 1013-38 Tel. +82 33 636 5561-2

คัมจาทัง

เมนูนี้อาจไม่ค่อยคุ้นสำหรับคนไทย แต่เมื่อลองแล้วจะติดใจสุด “คัมจาทัง” หมายถึง ซุปมันฝรั่ง ซึ่งมีมันฝรั่งผลใหญ่และสารพัดผักและสมุนไพร ที่ขาดไม่ได้คือใบงาขี้ม้อน (เก็ตนิบ ในภาษาเกาหลี หรือชิโซะของญี่ปุ่น) กับเมล็ดของงาขี้ม้อนคั่วและบดเป็นส่วนผสมสำคัญ พร้อมกับใช้เนื้อกระดูกหมูส่วนสันหลังหรือสันคอ ตุ๋นจนเปื่อย ซุปหอมๆ ออกเผ็ดหน่อยๆ แกล้มด้วยข้าวร้อนๆ นี่เด็ดสุด เรียกได้ว่า เป็นเมนูที่อุดมด้วยแร่ธาตุ วิตามิน และใยอาหารจริงๆ

ขอแนะนำร้านฮงบับจัง ลงรถไฟใต้ดินที่ Mapo-gu Office Station ทางออก 5  เพราะนอกจากจะตกแต่งร้านดูน่านั่ง สบายๆ แล้ว ทีเด็ดยังอยู่ที่ซี่โครงที่เขาเน้นให้มีเนื้อติดอยู่เยอะ ซึ่งหายากมาก

More Info : ร้านตั้งอยู่ที่ 241-14, Nonhyeon-dong, Gangnam-gu, Seoul Tel : +82 2 516 3331